โชว์แรก นาย แพทริค 2 เด็กไทย คว้าใจผู้ชม CHUANG 2021 กับเพลง Me and My Broken Heart โดยใช้เวลาฝึกแค่ไม่กี่เดือนแต่ได้ใจแฟน ๆ เป็นอย่างมาก ผ่านพ้นไปด้วยดี สำหรับโชว์ สเตจแรกของ “นาย-กรชิต บุญสถิต์ภักดี” และ“แพทริค-ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์” 2 ตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันรายการ CHUANG 2021 (ช่วง สองศูนย์สองหนึ่ง) รายการวาไรตี้ชื่อดังที่เฟ้นหาไอดอลผู้มีความฝันและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความสามารถทางด้านการร้อง-เต้น ซึ่งคนที่พร้อมที่สุดเพียง 11 คนจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดกว่า 90 คน จะได้เป็นบอยแบนด์หน้าใหม่ประดับวงการบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ที่จีน
สเตจแรกของทั้งคู่เลือกเพลง Me and My Broken heart(มี แอนด์ มาย โบรเคิ่น ฮาร์ท)
เพลงอกหัก จังหวะมีเดียม ที่ต้องสลับกันร้องและต้องเต้นไปพร้อมกัน “นาย” โดดเด่นการร้อง ส่วน“แพทริค”ที่มีพื้นฐานร้อง-เต้นในระดับที่ดี เมื่อต้องมาโชว์คู่กันก็ต้องมีการปรับจูนกันหลายจุดเพื่อทำให้โชว์สำคัญนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ระยะการฝึกฝนโชว์นี้ของทั้ง 2 คน เตรียมไว้ตั้งแต่อยู่ไทยก่อนจะไปเข้ารายการ โดยมีต้นสังกัด Insight Entertainment (อินไซท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์) จัดเทรนด์ให้ ใช้เวลาฝึกแค่ไม่กี่เดือนก็ถือว่าทำได้ดีเป็นโชว์ที่ได้ใจแฟนๆที่ดูรายการวันนี้เป็นอย่างมาก เพราะทุกคนได้เห็นความสามารถด้านร้องและเต้นที่เข้ากัน ทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจในอินเนอร์ที่ต้องการสื่อสารออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งตอนจบนั้น บอกได้เลยว่าสามารถฟินได้เบาๆ
Angela Yuriar มิสแกรนด์เม็กซิโก ล็อกแอคเคาท์ไอจีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังมีดราม่าใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายภาพกับพระพุทธรูป หลังจากที่มีข่าวประเด็นดราม่าของ Angela Yuriar มิสแกรนด์ เม็กซิโก ปี 2020 ที่ได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเป็นภาพขณะที่ใส่ชุดว่ายสีทองกำลังยืนน้ำถ่ายภาพอยู่กับพระพุทธรูป ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความเหมาะสมของภาพดังกล่าว
ต่อมา (22 ก.พ.) ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก เบิ่งนางงาม ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เผย มิสแกรนด์เม็กซิโกอาจจะไม่รู้และไม่เข้าใจในเรื่องของศาสนา
ล่าสุด (22 ก.พ.) ทาง Angela Yuriar ก็ได้ทำการล็อกแอคเคาท์อินสตาแกรมส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
งานนี้ต้องรอทางฝั่ง Angela Yuriar ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังกล่าวอีกที ซึ่งเจ้าตัวนั้นกำลังเตรียมตัวที่จะบินมาเข้าร่วมการแข่งขันในเวที่การประกวด Miss Grand International 2020 ที่ประเทศไทย ในวันที่ 27 มีนาคม ที่จะถึงนี้
ยูทูปเบอร์รับ จงใจใช้ หม่อมลูกปลา มาให้เกิดการเปรียบเทียบจริง
หลังจากที่มีข่าวประเด็นดราม่าของยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งที่ได้ลงคลิปเปรียบเทียบผู้หญิงที่มีลักษณะอ้วน (หม่อมลูกปลา โชติกา ขวัญฐิติ) และผอม (ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร) โดยเข้าไปขอกอดคนแปลกหน้าในที่สาธารณะเพื่อทดสอบว่าใครจะโดนกอดมากกว่ากัน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวได้ทำคลิป ‘บูลลี่’ คนอ้วนออกมา
ล่าสุด (21 ก.พ.) ทาง ดำ ทรงศักดิ์ ปัญญาธรักษ์ ยูทูปเบอร์เจ้าของคลิปดังกล่าวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN เผย เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่ได้เป็นการเซ็ตตัวละคร เจตนาที่ทำคลิปนี้ คือ ต้องการสะท้อนสังคมในแง่ของการตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก
ซึ่ง ‘ลูกค้า’ เป็นคนเลือกหม่อมลูกปลามาเป็นพรีเซนเตอร์ตั้งแต่แรก เพราะต้องการพัฒนาบุคลิกภาพและชีวิต รวมไปถึงช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาของลูกและหนี้สินต่าง ๆ ประเด็นของการแต่งหน้าเป็นเพราะตัวหม่อมลูกปลาเองที่ไม่ได้แต่งหน้ามา ซึ่งต่างจากผู้หญิงอีกคนที่แต่งหน้ามาเองจากที่บ้าน พอมาถึงหน้าเซ็ตทีมงานก็ให้เปลี่ยนชุดและเริ่มถ่ายทันที ส่วนที่บอกว่าคลิปนี้ไม่มีสปอนเซอร์เป็นการพูดเล่น
โดยก่อนที่เริ่มการถ่ายทำได้มีการพูดคุยกับหม่อมลูกปลาแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้าใจและยอมรับ ในช่วงที่หม่อมลูกปลาโดนปฏิเสธด้วยคำพูดที่รุนแรง ตนและทีมงานก็ได้มีการเข้าไปปลอบ โดยทางหม่อมลูกปลาก็ไม่ได้มีอาการติดใจอะไร สุดท้ายยอมรับว่า จงใจใช้ผู้หญิง 2 คน มาให้เกิดการเปรียบเทียบจริง ซึ่งที่จริงจะใช้แค่หม่อมลูกปลาคนเดียวก็ได้ แต่ตนอยากให้สังคมหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยถกเถียงกันอย่างจริงจัง จึงทำให้เกิดคลิปดังกล่าวขึ้น
หม่อมลูกปลา เปิดใจให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา แจง ไม่สนดราม่าแค่หาเงินไปเลี้ยงลูก ภูมิใจที่ได้เงินจากการทำงาน ไม่ใช่การไปขอใครฟรี ๆ หลังจากที่มีข่าวประเด็นดราม่าของยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งที่ได้ลงคลิปเปรียบเทียบผู้หญิงที่มีลักษณะอ้วน (หม่อมลูกปลา โชติกา ขวัญฐิติ) และผอม (ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร) โดยเข้าไปขอกอดคนแปลกหน้าในที่สาธารณะเพื่อทดสอบว่าใครจะโดนกอดมากกว่ากัน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวได้ทำคลิป ‘บูลลี่’ คนอ้วนออกมา
ล่าสุด (21 ก.พ.) ทางหม่อมลูกปลาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN เผย อยากมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ตอนนี้อยู่กัน 3 คน สามี เเละลูกสาววัย 8 ขวบ ส่วนเรื่องดราม่าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าการทำงานต้องมีทั้งบวกเเละลบ เรื่องเเค่นี้ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคดีท่านกบ
ตอนนี้ชีวิตตนลำบากมาก สามีทำอาชีพขับรถทัวร์ มีรายได้ประมาณ 10,000 บาท ส่วนตนรับจ้างทั่วไป ได้วันละ 300-500 บาท ต้องเช่าห้องอยู่ ค่าเช่ารวมค่าน้ำค่าไฟ ประมาณ 5,500 บาท ทั้งยังมีหนี้สินที่พอกพูนมาจากการสู้คดีท่านชายกบอยู่ 3 เเสนบาท ดังนั้นเมื่อมีผู้ใหญ่เสนองานมา ตนก็รับไว้ เพราะคิดเพียงว่า “เราจะมีเงินไปเลี้ยงลูก” ซึ่งเป็นงานที่ทำเเล้วสบายใจ เเละภูมิใจที่ได้เงินจากการทำงาน ไม่ใช่การไปขอใครฟรี ๆ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> pokdengkings.com
