Youtube แจงแล้วหลังลือแรง เตรียมลบแอคเคาต์ที่ไม่ทำเงิน

Youtube แจงแล้วหลังลือแรง เตรียมลบแอคเคาต์ที่ไม่ทำเงิน

Youtube ลบแอคเคาต์ – กลายเป็นเรื่องร้อนในหมู่ยูทูปเบอร์ หลังเว็บไซต์แพล็ตฟอร์มวิดีโอชื่อดัง Youtube แจ้งเตือนผู้ใช้ถึงการปรับปรุงนโยบายด้านความปลอดภัย ลิขสิทธิ์ และการโฆษณา จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ธ.ค. 2562 นี้ โดยตอนหนึ่งของนโยบายที่ก่อให้เกิดปัญหาถกเถียงตามมาคือข้อความที่ว่า “ํYoutube may terminate your access, or your google account’s access to all or part of the service if Youtube believes, in its sole discretion, that provision of the service to you is no longer commercially viable.”.

Youtube อาจยุติการเข้าถึงของคุณหรือการเข้าถึงบัญชี Google ของคุณ

ในการให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วนของการบริการหาก Youtube เชื่อด้วยดุลยพินิจของตนว่าการจัดหาบริการให้กับคุณนั้นไม่สามารถใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป ข้อความดังกล่าวทำให้คนตีความกันไปว่า Youtube จะพิจารณายกเลิกแอคเคาต์ที่ทำเงินได้น้อยหรือไม่ทำเงินให้กับ Youtube

ต่อมาทางแอคเคาต์ทวิตเตอร์ทางการของ Youtube ชี้แจงข้อสงสัยดังกล่าวว่า “ส่วนของข้อกำหนดของเราที่คุณอ้างถึงคือ * ไม่ * เกี่ยวกับการยกเลิกบัญชีหากไม่ทำเงินมากพอ – มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการยกเลิกคุณสมบัติบางอย่างของ YouTube หรือบางส่วนของบริการเช่น ลบคุณลักษณะที่ล้าสมัย / มีการใช้งานต่ำ สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทุกคนในรูปแบบใหม่!”

อย่างนี้ก็สบายใจได้ว่า ใครก็ตามที่ทำคลิปลง Youtube จะไม่โดนปิดช่องแน่นอน (ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่ทำอะไรผิดกฎหมายหรือข้อบังคับชุมชน หรือโพสต์เนื้อหาไม่เหมาะสมนะ)

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะมีการรณรงค์ จัดแคมป์เปญหรือตั้งด่านถี่แค่ไหน แต่พฤติกรรมเมาแล้วขับ ยังคงเป็นอะไรที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล พฤติกรรมนี้ยังสร้างความเสียหายมากมายต่อทั้งผู้คนและทรัพย์สิน. ปัญหาเมาแล้วขับมีสามปัจจัยหลักๆคือ บุคคล+แอลกอฮอล์+รถ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราตัดเรื่อง ‘รถ’ ออกไป.

NHTSA (the National Highway Traffic Safety Administration)หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงของสหรัฐฯ ได้เริ่มทำการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยลดปัญหาเมาแล้วขับ. โดย สว. Tom Udall จากพรรค  Democrat และ Rick Scott จาก Republican มีการเตียมเสนอกฏหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทรถยนต์ต่างๆ ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ภายใน 5 ปีข้างหน้า.

โดยเทคโนโลยีนี้จะเป็นในลักษณะของการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยการใช้อินฟรเรทฉายไปที่ปลายนิ้ว ใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ที่บริเวรปุ่มกดสตาร์ทหรือที่บริเวรพวงมาลัย หากมีการตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ ระบบจะทำการตัดไปไม่ให้สามารถสตาร์ทรถได้. อีกความเป็นไปได้คือการตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตาหรือลมหายใจของผู้ขับขี่.

NHTSA ลงทุนไปหลานล้านกับโปรเจ็คนี้, เทคโนโลยีดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ ตั้งเป้าภายในปี 2024 รถทุดคันในอเมริกาจะต้องมีฟีเจอร์ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิ้นฐาน. สำหรับรถในรุ่นปีที่เก่ากว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อาจมีการบังคับให้ติดตั้งในลักษณะของอุปกรณ์เสริมจ้างอู่ที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาต ก็เป็นได้.

Apple ปล่อยแอ้พสำหรับเก็บข้อมูล เพื่อการศึกษาและวิจัยด้านสุขภาพ

ในงานอีเว้นท์ใหญ่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นอกจากจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตระกูล iPhone 11 แล้ว Apple ยังได้มีการแง้มข้อมูลแอ้พพิเคชั่นที่อยู่ในกลุ่มของ Apple Reseach app ซึ่งคร่าวๆคือเป็นแอ้พที่ทาง Apple ร่วมมือกับสถาบันวิจัยต่างๆอย่าง Harvard, Women’s Hospital and the American Heart Association และ University of Michigan เพื่อเริ่มการศึกษาในเรื่องสุขภาพ. ​

ล่าสุด Apple ได้มีการปล่อยให้ดาวน์โหลดแอ้พเหล่านี้แล้วในสหรัฐอเมริกา(สำหรับผู้ที่สมัครใจให้เผยแพร่ข้อมูล).​ โดยแอ้พที่ว่านี้มีด้วยกัน 3 ประเภทคือ Women’s Health, Heart and Movement และ Hearing Study.

Women’s Health เป็นแอ้พสำหรับเก็บข้อมูลและติดตามพฤติกรรมการเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับรอบการมีประจำเดือนของคุณสภาพสตรี. Heart and Movement เป็นการเก็บเกี่ยวข้อมูลจากหลายๆส่วนของร่างการ ทั้งการเต้นของหัวใจ การเดิน และกิจกรรมอื่นๆผ่านเซ็นฌวอร์ต่างๆในตัว Apple Watch. Hearing Study เป็นการศึกษาผลกระทบที่เกิดจากเสียง, การตรวจวักระดับเสียงรอบข้าง, การได้ยินและความเครียดที่เกิดจากเสียงที่มากดังไป.

หากพูดตามความจริง แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนตัว จึงทำให้เกิดควสามกังวลว่าข้อมูลเหล่านี้จะไปตกอยู่ที่ไหน. เรื่องนี้ทาง Apple ได้ออกมาบอกว่า เฉพาะข้อมูลที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการศึกษาเท่านั้นที่จะถูกแชร์และนำออกไปใช้.

อย่างที่ทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างจีนและวหรัฐอเมริกานั้นค่อนข้างจะไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่ผละหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดนั้นคงจะหนีไม่พ้น Huawei. หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ได้มีการประกาศสั้งห้ามบริษัทในอเมริกาทำการค้าขายกับ Huawei มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและมีการยืดระยะเวลาออกมาอยู่เรื่อยๆ. ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่า Huawei จะได้รับอนุญาติให้ค้าขายกับบริษัทในสหรัฐต่อได้อีกสองสัปดาห์.

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น